โอกาสในวิกฤตหลังการล่มสลายของวงการธุรกิจเพลงไทย
ชัย วงช้าง
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554
เมื่อทุกอย่างกับมาสู่สามัญ ทุกคนต่างก็มีโอกาสแต่!!!!!!!
วงการเพลงไทย ทุกค่ายต่างหนีตาย หาเพลงมุขออกมาขาย เน้นดังเร็วเพื่อวิ่งไปที่แสดงสดเพราะเป็นทางเดียวที่จะหารายได้จากการลงทุนซึ่งมองอีกทีก็ถูกต้องในเมื่อเป็นหนทางเดียวที่เอาเงินคืนจากการลงทุนผลิตและให้ตัวเองยังอยู่ในธุรกิจเพลงได้ต่อไป(หรือไม่) ค่าบัตรก็แพงแสนแพงเหมือนนักร้องฝั่งต่างประเทศ เช่น แพงสุด 2,500 บาท ต่ำสุด 500 เป็นต้น มาดูหรือเข้าชม1,000 คนต่อรอบเป็นอย่างน้อยก็ได้เงินนับล้าน เอาละหลักการนี้ไม่ใช่พึ่งเกิดแต่เคยเป็นมาในอดีตนานแล้วตั้งแต่อดีต ไม่ว่ายุค สรพล เรื่อยมาถึงยุคสายัณห์ แม้แต่วงเพื่อชีวิตวงหนึ่งอายุวงก็นานแล้ว ยังหาสปอนเซอร์จัดการแสดงนี่เป็นหนทางเดียวที่จะหาเงินเข้ากระเป๋าได้ในยามยาก แล้ววงไม่ค่อยมีชื่อจะหากินยากลำบากเหมือนกันนอกจากข้างฟุตบาทกับขัน 1 ใบ หรือขอทานเล่นในผับ หากอาชีพอื่นรายได้ดีกว่าหรือเลี้ยงครอบครัวได้ดีกว่าก็ควรทำเพลงเป็นงานอดิเรกจะดีกว่า ยุคทองของวงการเพลงผ่านไปอย่างรอดเร็ว นายทุนหรือค่ายเพลงก็ช๊อต เมื่องานเพลงกลับมาสู่ยุคที่เป็นศิลปะมากขึ้นกว่ายุคธุรกิจหลายคนท้อก็ลาวงการไปทั้งที่ฝีมือดี หรือหลายคนยังหากินกับบุญเก่า เมื่อวงการเพลงกลับมาสู่สามัญอีกครั้งก่อนรอเทคโนโลยี่ใหม่ที่จะวนมาอีกอย่างเช่น แผ่นเสียง มาเป็นเทป CD และ mp3 ดาวโหลดสื่อดิจิตอล ต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้นอนาคตค่ายใหม่ที่มีคุณภาพกว่าเน้นธุรกิจมอมเมาเยาวชน(ถือว่าเด็กมอมเมาง่ายหรือเปล่า) อาจขึ้นมาเป็นผู้นำด้านงานคุณภาพก็ได้ คุณเองก็เป็นหนึ่งในนั้นก็เป็นได้อย่าประมาทตัวเอง!!!!